เลขที่หนังสือ | : กค 0702/8523 |
วันที่ | : 11 ธันวาคม 2551 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีใบกำกับภาษีค่าไฟฟ้า |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 77/1(20) แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | บริษัท อ. ประกอบธุรกิจเคเบิ้ลทีวี ได้ขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าบนเสาไฟของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตามระยะทางของการพาดสายเคเบิ้ลผ่าน จำนวนหลายจุดและหลายพื้นที่ เมื่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเรียกเก็บค่าไฟฟ้ามายังบริษัทฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีระบุที่อยู่ตามสถานที่ที่มิเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง เนื่องจากเป็นระเบียบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัทฯ ได้หารือว่า บริษัทฯ สามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีดังกล่าว มาถือเป็นภาษีซื้อได้หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | กรณีบริษัทฯ ได้รับใบกำกับภาษีที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกให้แก่บริษัทฯ โดยระบุชื่อของบริษัทฯ แต่ที่อยู่ในใบกำกับภาษีเป็นที่อยู่ตามการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าบนเสาไฟของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้น เนื่องจากสถานที่ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ ตามมาตรา 77/1(20) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าวไปหักออกจากภาษีขายของสถานประกอบการซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ |
เลขตู้ | : 71/36257 |
http://www.rd.go.th/publish/41084.0.html
เลขที่หนังสือ | : กค 0702/พ./3602 |
วันที่ | : 13 พฤษภาคม 2552 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีใบกำกับภาษีค่าไฟฟ้าของสำนักงานชั่วคราวในโครงการจัดสรรที่ดิน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 85/7 และมาตรา 77/1(20) แห่งประมวลรัษฎากร |
ข้อหารือ | บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ประกอบกิจการจัดสรรที่ดินเพื่อขาย จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2550 เนื่องจากมีรายได้จากค่าบริการส่วนกลาง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าดูแลบำรุงรักษาพื้นที่ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2551 ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มขอเพิ่มสำนักงานสาขา 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโครงการพัฒนา จัดสรรที่ดินเพื่อขาย เนื่องจากพื้นที่ของโครงการบางส่วนยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ และบางส่วนขายไปแล้ว บริษัทฯ จึงยังต้องรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางรวมทั้งค่าไฟฟ้าทั้งหมดก่อน แล้วเรียกเก็บจากผู้ใช้ ที่อยู่ในโครงการที่ขายไปแล้ว บริษัทฯ มีมิเตอร์ไฟฟ้า 3 แห่ง อยู่ภายในโครงการก่อสร้างเพื่อใช้ร่วมกัน มิเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าวเป็นชื่อของบริษัทฯ ทั้งหมด แต่ที่อยู่ของสำนักงานซึ่งระบุในใบกำกับภาษีของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบ (กิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ) ผู้ให้บริการ แตกต่างกัน 3 ฉบับ ดังนี้ คือ 1. เลขที่ 1 หมู่ที่ 6 ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งตั้งอยู่ภายในโครงการก่อสร้าง บริษัทฯ สร้างสำนักงาน ชั่วคราวขึ้นเพื่อรอการขายและใช้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานก่อสร้างระหว่างรอการขาย 2. เลขที่ 2 หมู่ที่ 6 ซอยเทศบาล 12 ถนนสุขุมวิท กม.166 ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 20250 ซึ่งเป็น ที่ตั้งสำนักงานสาขาที่จดทะเบียน 3. หมู่ที่ 6 ซอยเทศบาล 12 ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นมิเตอร์ชั่วคราวระหว่างก่อสร้างที่ตั้งอยู่ที่ดิน ภายในโครงการก่อสร้าง บริษัทฯ สร้างสำนักงานชั่วคราวขึ้นเพื่อรอการขายและใช้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานก่อสร้างระหว่าง รอการขาย จำนวนค่าไฟฟ้าที่ทางบริษัทฯ เรียกเก็บจากผู้ใช้ มาจากมิเตอร์ไฟฟ้าที่บริษัทฯ ติดตั้งในที่ดินของบริษัทฯ เพื่อใช้ร่วมกันใน โครงการคือ ไฟถนนในโครงการ และไฟเข้าบ้านแต่ละหลังในโครงการ บริษัทฯ จึงได้บันทึกใบกำกับภาษีดังกล่าวเป็นภาษีซื้อของ สำนักงานใหญ่ และบริษัทฯ ได้ออกใบกำกับภาษีเรียกเก็บค่าบริการส่วนกลางและนำส่งภาษีขายต่อกรมสรรพากรในนามของ สำนักงานใหญ่ บริษัทฯ จึงหารือว่า บริษัทฯ สามารถใช้ใบกำกับภาษีที่ระบุชื่อของบริษัทฯ และที่อยู่ของสถานประกอบการสาขาและ สำนักงานชั่วคราวตามที่กิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ ออกให้เป็น ภาษีซื้อของสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขาได้หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | 1. กรณีบริษัทฯ ได้จดทะเบียนสำนักงานสาขา ย่อมถือได้ว่าสาขาเป็นนิติบุคคลเดียวกันกับสำนักงานใหญ่ สาขาจึงเป็น ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดสาขา แต่บริษัทฯ ต้องแจ้งการเปิดสาขาเพิ่มเติมตามมาตรา 85/7 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร กรณีที่บริษัทฯ ได้รับใบกำกับภาษีที่กิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ ออกให้นั้น ระบุชื่อและที่อยู่ของ สำนักงานสาขา ก็ให้ถือเป็นภาษีซื้อของสำนักงานสาขาที่ได้รับใบกำกับภาษี และสามารถนำไปใช้เป็นภาษีซื้อสำหรับสำนักงาน สาขานั้น 2. กรณีบริษัทฯ ได้รับใบกำกับภาษีที่กิจการไฟฟ้าสวัสดิการฯ ออกให้ โดยระบุชื่อของบริษัทฯ แต่ที่อยู่ในใบกำกับภาษี เป็นที่อยู่ของสำนักงานชั่วคราวที่ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าที่บริษัทฯ ได้ขอติดตั้งในที่ดินของบริษัทฯ เพื่อใช้ร่วมกันในโครงการก่อสร้าง เนื่องจากสำนักงานชั่วคราว ที่ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าว ไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ ตามมาตรา 77/1(20) แห่ง ประมวลรัษฎากร ดังนั้น บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าวไปหักออกจากภาษีขายของสถานประกอบการ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ |
เลขตู้ | : 72/36604 |
http://www.rd.go.th/publish/24069.0.html
เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ.31981 |
วันที่ | : 16 สิงหาคม 2543 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการลดสาขาของผู้ประกอบการ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 77/1(20) |
ข้อหารือ | : บริษัท A. จำกัด กรณีบริษัทฯ ซึ่งดำเนินธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ให้บริการด้านยาม รักษาความปลอดภัยและศูนย์ธุรกิจในโครงการ A. ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีสถานประกอบการตั้งอยู่ ดังนี้ 1. สำนักงานใหญ่ ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 2. สาขาที่ 1 สำนักงานถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัด ปทุมธานี ซึ่งสาขาที่ 1 เป็นสำนักงานประจำโครงการของบริษัทฯ ที่มีพนักงานของบริษัทฯ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ เพื่อให้บริการแก่ผู้เช่าทั้งในด้านงานซ่อมบำรุง ดูแลรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยใน โครงการฯ รวมถึงการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเยี่ยมชมโครงการ 3. สาขาที่ 2-36 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จะ เป็นอาคารทั้งหมดในโครงการฯ ที่มีไว้ให้บุคคลอื่นเช่าเพื่อดำเนินธุรกิจด้านต่าง ๆ ของผู้เช่าแต่ละ อาคาร โดยไม่มีพนักงานของบริษัทฯ และไม่มีการดำเนินการใด ๆ ของบริษัทในอาคารดังกล่าว เหตุที่ แจ้งเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อเพิ่มอาคารดังกล่าวเป็นสถานประกอบการ เนื่องจากได้ รับทราบว่าหากต้องการนำภาษีซื้อของค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่ต้องระบุที่อยู่ บนใบกำกับภาษีตามสถานที่ติดตั้งมิเตอร์จริงของแต่ละอาคารมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องแจ้ง เพิ่มสถานประกอบการ บริษัทฯ ได้รับอนุมัติให้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มรวมกัน ณ สถานประกอบการ สำนักงานใหญ่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2535 บริษัทฯ จึงหารือว่า 1. อาคารให้เช่าที่ได้จดแจ้งเป็นสถานประกอบการสาขาที่ 2-36 แล้ว เข้าลักษณะเป็น สถานประกอบการที่จะต้องแจ้งเพิ่มเป็นสถานประกอบการตามกฎหมายหรือไม่ หากไม่ใช่ สถานประกอบการ ถ้าบริษัทฯ ขอลดสาขาดังกล่าวแล้ว ใบกำกับภาษีซื้อค่าสาธารณูปโภคที่ระบุเลขที่ของ อาคารให้เช่าดังกล่าว จะสามารถนำมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของ สำนักงานใหญ่ได้หรือไม่ 2. บริษัทฯ ยังคงจำเป็นต้องยื่นคำขอเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อ ขอเพิ่ม สถานประกอบการ (สาขา) ตามแบบ ภ.พ.09 สำหรับอาคารให้เช่าที่จะสร้างเพิ่มขึ้นใหม่หรือไม่ และ ใบกำกับภาษีซื้อค่าสาธารณูปโภคที่เกิดขึ้นโดยระบุเลขที่ของอาคารให้เช่า จะสามารถนำมาหักออกจาก ภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มของสำนักงานใหญ่ได้หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. อาคารให้เช่าของบริษัทฯ ที่มีไว้ให้ผู้อื่นเช่า ไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการของ บริษัทฯ ตามมาตรา 77/1(20) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ จึงไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อขอเพิ่มสถานประกอบการ (สาขา) แต่อย่างใด 2. กรณีที่บริษัทฯ ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับอาคารให้เช่า ถนน พหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เพิ่มเป็นสถานประกอบการสาขาที่ 2-36 แล้วนั้น จึงขอให้บริษัทฯ ไปดำเนินการยื่นแบบแจ้งเปลี่ยนแปลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.09) ณ สำนักงานภาษีสรรพากรพื้นที่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ ตั้งอยู่ เพื่อขอยกเลิกการจดแจ้งเป็น สถานประกอบการของสาขาที่ 2-36 ต่อไป 3. กรณีบริษัทฯ ได้รับใบกำกับภาษีซื้อสำหรับค่าสาธารณูปโภคของอาคารให้เช่า ซึ่งระบุชื่อ บริษัทฯ ถูกต้องแต่ระบุที่อยู่ตามเลขที่ของอาคารให้เช่าซึ่งไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ บริษัทฯ มีสิทธินำไปถือเป็นภาษีซื้อของสำนักงานใหญ่ หรือเป็นภาษีซื้อของสถานประกอบการอื่นซึ่งจ่ายค่าสินค้าหรือ ค่าบริการสาธารณูปโภคได้ ทั้งนี้ ตามข้อ 15 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ป.86/2542 เรื่อง หลักเกณฑ์ การจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็น แบบเต็มรูป ลงวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2542 |
เลขตู้ | : 63/29677 |
http://www.rd.go.th/publish/3568.0.html
คำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ป. 86/2542
เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/5 แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะที่มีลักษณะเป็นแบบเต็มรูป
ข้อ 15 กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสถานประกอบการหลายแห่ง จะต้องจัดทำใบกำกับภาษีเป็นรายสถานประกอบการ
กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนตามวรรคหนึ่ง มีการดำเนินงาน ณ สถานที่อื่นซึ่งไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ ตามมาตรา 77/1(20) แห่งประมวลรัษฎากร ด้วย ให้จัดทำใบกำกับภาษีระบุที่อยู่ของสถานประกอบการซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่หรือสถานประกอบการแห่งอื่นที่ดำเนินงาน ไม่ใช่ที่อยู่ตามสถานที่ซึ่งไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ
กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนตามวรรคสอง ได้รับใบกำกับภาษีระบุชื่อของผู้ประกอบการจดทะเบียนถูกต้อง แต่ระบุที่อยู่ตามสถานที่ซึ่งไม่เข้าลักษณะเป็นสถานประกอบการ ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสิทธินำไปถือเป็นภาษีซื้อของสำนักงานใหญ่ หรือเป็นภาษีซื้อของสถานประกอบการแห่งอื่นซึ่งจ่ายค่าสินค้าหรือค่าบริการ
ตัวอย่าง
(1) บริษัท ก.จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เขตพญาไท ประกอบกิจการให้เช่าอาคารสำนักงานซึ่งตั้งอยู่เขตบางพลัด บริษัทฯไม่ได้ใช้พื้นที่ของอาคารที่ให้เช่าเป็นสถานประกอบการ แต่บริษัทฯให้บริการสาธารณูปโภคแก่ผู้เช่า บริษัทฯขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ ณ อาคารที่ให้เช่า รัฐวิสาหกิจจัดทำใบกำกับภาษีในนามของบริษัทฯ แต่ระบุที่อยู่ตามอาคารที่ให้เช่า บริษัทฯมีสิทธินำใบกำกับภาษีไปถือเป็นภาษีซื้อของสำนักงานใหญ่ได้ เมื่อบริษัทฯเรียกเก็บค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้เช่า บริษัทฯต้องจัดทำใบกำกับภาษีโดยระบุที่อยู่ของสถานประกอบการที่เป็นสำนักงานใหญ่
(2) บริษัท ข.จำกัด ประกอบกิจการผลิตปลากระป๋อง มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เขตบางซื่อ มีสำนักงานอีกแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดระยอง บริษัทฯก่อสร้างโรงงานที่จังหวัดระยอง โดยมอบหมายให้สำนักงานที่จังหวัดระยองดำเนินงานด้านการก่อสร้างและจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการก่อสร้าง บริษัทฯขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ณ สถานที่ก่อสร้าง รัฐวิสาหกิจจัดทำใบกำกับภาษีในนามของบริษัทฯ แต่ระบุที่อยู่ ณ สถานที่ก่อสร้าง บริษัทฯมีสิทธินำใบกำกับภาษีไปถือเป็นภาษีซื้อของสำนักงานที่จังหวัดระยองได้
(3) บริษัท ก.จำกัด เช่าสถานที่แห่งหนึ่งเพื่อติดตั้งป้ายโฆษณาสินค้าซึ่งต้องมีกระแสไฟฟ้าส่องป้าย บริษัทฯขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า ณ สถานที่เช่า รัฐวิสาหกิจจัดทำใบกำกับภาษีในนามของบริษัทฯ แต่ระบุที่อยู่ตามสถานที่เช่า บริษัทฯมีสิทธินำใบกำกับภาษีไปถือเป็นภาษีซื้อของสำนักงานใหญ่ได้
ข้อ 16....
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น