เลขที่หนังสือ
|
: กค 0706/พ./7749
|
วันที่
|
: 15 กันยายน 2548
|
เรื่อง
|
: ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีใบกำกับภาษี
|
ข้อกฎหมาย
|
: มาตรา 82/3 มาตรา 86/4(3) มาตรา 82/5(2) และมาตรา 90(12)
|
ข้อหารือ
|
: บริษัท ซ. เดิมชื่อบริษัท ก. ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อต่อกระทรวงพาณิชย์ และยื่นแบบ ภ.พ.09 ณ สำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่โดยเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ซ. เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2548 บริษัทฯ แจ้งให้ผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าว่าเอกสารเกี่ยวกับใบแจ้งหนี้และใบกำกับภาษีต่าง ๆ ให้ใช้ชื่อบริษัทใหม่ คือ บริษัท ซ. ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2548 เป็นต้นไป ดังนั้น บริษัท ซ. จึงขอผ่อนผันระยะเวลาการใช้ชื่อเดิมในใบกำกับภาษีระหว่างวันที่ 13 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2548 เพื่อใช้ในใบกำกับภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
|
แนววินิจฉัย
|
: กรณีบริษัทฯ ได้ยื่นแบบ ภ.พ.09 เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2548 ณ สำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงชื่อจากบริษัทเดิมเป็นบริษัท ซ. ตามข้อเท็จจริงดังกล่าว แยกพิจารณาได้ดังนี้
1. ใบกำกับภาษีที่ระบุชื่อเดิมของบริษัทฯ ที่บริษัทฯ ได้รับในวันที่ 13 มิถุนายน 2548 เป็นใบกำกับภาษีที่ได้รับก่อนการแจ้งเปลี่ยนแปลงชื่อต่อสำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ จึงเป็นใบกำกับภาษีที่ถูกต้องตามชื่อที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 86/4(3) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่เป็นใบกำกับภาษีต้องห้ามตามมาตรา 82/5(2) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ มีสิทธินำภาษีซื้อมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากรได้
2. ใบกำกับภาษีที่บริษัทฯ ได้รับระหว่างวันที่ 14 และวันที่ 15 มิถุนายน 2548 ซึ่งเป็นวันที่หลังจากบริษัทฯ แจ้งเปลี่ยนแปลงชื่อแล้ว เมื่อผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการออกใบกำกับภาษีให้แก่บริษัทฯ ก็ต้องระบุชื่อของบริษัทฯ ตามที่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หากระบุชื่อเดิมของบริษัทฯ ถือเป็นใบกำกับภาษีที่ระบุชื่อของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 86/4(3) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทฯ ไม่มีสิทธินำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากรเนื่องจากเป็นใบกำกับภาษีที่มีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องห้ามตามมาตรา 82/5(2) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ออกใบกำกับภาษีต้องรับผิดตามมาตรา 90(12) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น หากบริษัทฯ ร้องขอให้ผู้ออกใบกำกับภาษีดำเนินการยกเลิกใบกำกับภาษีฉบับเดิมและจัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่ โดยให้ระบุชื่อบริษัทฯ ให้ถูกต้อง บริษัทฯ จึงจะมีสิทธินำไปถือเป็นภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้
|
เลขตู้
|
: 68/33566
|
http://www.rd.go.th/publish/30781.0.html
----------------------------------------------------
คุณ Ps Tudtoo Familyhappy (1 กันยายน 2558 เวลา 11:15 น.) ปุจฉา: เรียนสอบถาม อาจารย์สุเทพ พงษ์พิทักษ์ ค่ะ * บริษัทฯ ได้ไปจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ ** ที่กรมพัฒน์ฯ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2558 ** ที่กรมสรรพากร เมื่อวันที่ 01 กันยายน 2558 ** ขอสอบถามค่ะว่า บริษัทฯ จะยึดวันที่เปลี่ยนแปลงในเอกสารเกี่ยวกับใบกำกับภาษีขายและซื้อ ในวันที่อะไรคะ (พอดีไปดำเนินการที่กรมสรรพากรแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อให้ค่ะ คือให้ไปดำเนินการแก้ไขว่า มีผลตั้งแต่ 19 สิงหาคม 2558 ค่ะ ทางบริษัทฯ เลยแจ้งไปว่า ได้โทรสอบถาม Call Center สรรพากรแล้ว ทางเจ้าหน้าที่เลยไม่ค่อยพอใจ แต่ก็รับจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อให้แต่ก็บ่นๆ ไปว่าทำไมไม่ไปจดกับ Call Center หรือทีมกำกับล่ะ มาจดทำไมกับเค้า แล้วบอกว่าถ้าผิด ก็ไม่รับผิดชอบให้นะ คือ จนท. จะยืนยันให้ได้ว่าให้มีผลตั้งแต่วันที่จดที่กรมพัฒน์ฯ ค่ะ...ทำให้ทางบริษัทฯ สับสนค่ะ ว่าคำตอบไม่ตรงกับทางทีมกำกับดูแล และทาง Call Center ค่ะ) รบกวนอาจารย์ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
สุเทพ พงษ์พิทักษ์ วิสัชนา: วันที่ที่ถือว่า บริษัทฯ ได้เปลี่ยนแปลงรายการทางทะเบียนที่จะนำไปใช้ในการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น ให้ถือตามวันที่เจ้าพนักงานที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชยฺ์รับจดแจ้งการเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ อย่างเป็นทางการ คือวันที่ 19 สิงหาคม 2558 ซึ่งบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องยื่นแบบ ภ.พ.09 แจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวต่ออธิบดีกรมสรรพากร ภายใน 15 ว้น นับแต่วันที่ได้ทำการเปลี่ยแปลงชื่อบริษัทฯ นั้นแล้ว ตามมาตรา 85/6 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้ "มาตรา 85/6 ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในสาระสำคัญซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงชื่อสถานประกอบการ ประเภทกิจการ ประเภทสินค้าหรือบริการ ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนแจ้งการเปลี่ยนแปลงนั้น ณ สถานที่ที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ภายในสิบห้าวันนับจากวันที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น การแจ้งการเปลี่ยนแปลงรายการตามวรรคหนึ่ง และการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เปลี่ยนแปลงรายการแล้ว ให้เป็นไปตามแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด"
ดังนั้น ใบกำก้บภาษีขายและใบกำกับภาษีซื้อที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2558 ต้องเป็นชื่อใหม่ของบริษัทฯ มิฉะนั้น บริษัทฯอาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา อาทิ ภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีที่ชือไม่ถูกต้อง ถือเป็นภาษีซื้อต้องห้าม และเป็นรายจ่ายต้องห้าม กรณีภาษีขายบริษัทฯ ออกใบกำก้บภาษีไม่ถูกต้อง
ปล. จงอย่าเขื่อผมหรือบุคคลใดๆ หากแต่ต้องศึกษากฎหมายให้ได้ความชัดเจนเสียก่อน ประเด็นนี้...ผมเองก็เคยสับสนกับระยะเวลา 15 วันนับแต่การเปลี่ยนแปลง..ช่วงเวลาที่เคว้งคว้าง..หากต้องออกใบกำกับภาษี จะใช้ชื่อใด หรือ หากมีภาษีซื้อจะระบุอย่างไร..สุดท้ายก็ได้คำตอบ..ว่าในข่วงดังกล่าวจงอย่ามีกิจกรรมใดๆเชียว หากจำเป็นต้องมี ควรเร่งดำเนินการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้สอดคล้องกับกระทรวงพาณิชย์ก่อนกระทำกิจกรรมนั้นๆ...เช่นเดียวกับกาจด VAT เนื่องจากเกินฐานภาษีมูลค่าเพิ่มขนาดย่อม (1.8 ล้าน) ภายในสามสิบวัน ข่วงระยะเวลาดังกล่าว ก็ไม่สามารถขายสินค้า หรือ รับเงินค่าบริการได้ หากกระทำการนั้น..ถือเป็นฐานภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งสิ้น
https://www.facebook.com/Suthep.Pongpitak/posts/983608078356835
|