วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ภาษีเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่าย กรณีบริการซ่อมและค่าอะไหล่

เลขที่หนังสือ: กค 0811/7660
วันที่: 2 สิงหาคม 2544
เรื่อง: ภาษีเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่าย กรณีการให้บริการซ่อมรถยนต์
ข้อกฎหมาย: มาตรา 40
ข้อหารือ: บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตสินค้าเพื่อขาย และมีพนักงานขายของบริษัทฯ เอง
บริษัทฯ มีปัญหาเรื่องการหักภาษี ณ ที่จ่าย ดังนี้
1. กรณีค่าซ่อมรถ พนักงานขายของบริษัทฯ ได้นำรถยนต์ของบริษัทฯ เข้าซ่อมที่ ต่างจังหวัด
ตามศูนย์บริการของอีซูซุและโตโยต้า เมื่อซ่อมแล้วทางศูนย์บริการออกบิลค่าซ่อมและ ค่าอะไหล่แยก
ออกจากกันแต่เป็นชื่อบริษัทเดียวกัน บริษัทฯ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายจากบิลยอดไหน อย่างไร
2. จากกรณีข้อ 1 ถ้าศูนย์บริการคิดแต่ค่าอะไหล่อย่างเดียว ไม่มีค่าแรง จะต้องหักภาษี ณ
ที่จ่าย อย่างไร
แนววินิจฉัย: 1. การที่บริษัทฯ ได้นำรถยนต์เข้าซ่อมที่ศูนย์บริการ O และ G ในต่างจังหวัด เมื่อซ่อมแล้ว
ศูนย์บริการได้ออกบิลค่าแรงและค่าอะไหล่แยกออกจากกัน แต่เป็นชื่อบริษัทเดียวกัน กรณีนี้ถือได้ว่า
ศูนย์บริการผู้รับจ้างประกอบกิจการรับจ้างซ่อมรถยนต์ ซึ่งเข้าลักษณะเป็นการรับจ้างทำของ เมื่อ
ศูนย์บริการฯ เป็นผู้จัดหาอะไหล่เพื่อใช้สำหรับการซ่อมรถยนต์เอง รายรับของศูนย์บริการฯ จึงต้อง
รวมทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่
เมื่อบริษัทฯ จ่ายเงินค่าบริการซ่อมรถยนต์ให้แก่ศูนย์บริการฯ บริษัทฯ จึงมี
หน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0 ของยอดเงินที่จ่ายทั้งที่เป็นค่าแรงและค่าอะไหล่ 
ทั้งนี้ ตามข้อ 8(2) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตาม
มาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2528 ซึ่ง
แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.19/2530 ฯ ลงวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2530
2. กรณีตามข้อเท็จจริงดังกล่าว ถ้าศูนย์บริการฯ เรียกเก็บค่าอะไหล่อย่างเดียว โดยไม่มี
การเรียกเก็บค่าแรงด้วย บริษัทฯ ยังคงมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0 ของ
ยอดเงินที่จ่ายทั้งหมด
ทั้งนี้ ตามข้อ 8(2) ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 ฯ ลงวันที่ 26
กันยายน พ.ศ. 2528
เลขตู้: 64/30743
-
Cr : http://www.rd.go.th/publish/25352.0.html


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เลขที่หนังสือ: กค 0706/6476 
วันที่: 2 สิงหาคม 2549 
เรื่อง:        การหักภาษี ณ ที่จ่าย กรณีการให้บริการซ่อมรถยกสินค้า
ข้อกฎหมาย:       มาตรา 50 แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ:       การประกอบกิจการให้บริการซ่อมรถยกสินค้าและขายอะไหล่รถยกสินค้า ผู้จ่ายเงินได้จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือไม่ โดยมีข้อเท็จจริง ดังนี้
       1. กรณีการให้บริการซ่อมรถยกสินค้าโดยมีค่าบริการค่าแรงจำนวน 500 บาท ค่าอะไหล่จำนวน 1,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 105 บาท รวมจำนวน 1,605 บาท ผู้จ่ายเงินได้จะต้องหักภาษี ณ ที่ จ่าย หรือไม่ อย่างไร
       2. กรณีการให้บริการตรวจสภาพรถยกสินค้าโดยมีค่าอะไหล่จำนวน 1,000 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวน 70 บาท รวมจำนวน 1,070 บาท โดยไม่คิดค่าบริการแรงงาน ผู้จ่ายเงินได้จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย จากมูลค่าการให้บริการแรงงาน หรือไม
แนววินิจฉัย:       การให้บริการซ่อมรถยกสินค้าและการให้บริการตรวจสภาพรถยกสินค้าตามข้อเท็จจริงดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นการให้บริการตามสัญญารับจ้างทำของซึ่งมุ่งผลสำเร็จของงานโดยไม่สามารถแยกค่าอะไหล่กับค่าแรงงานออกจากกัน ดังนั้น หากผู้จ่ายเงินได้เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่ จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.0 ของเงินได้ ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2528
เลขตู้:69/34395

Cr : http://www.rd.go.th/publish/32689.0.html

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------







0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น