เลขที่หนังสือ | : กค 0811/พ.05369 |
วันที่ | : 8 มิถุนายน 2542 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีใบกำกับภาษีระบุที่อยู่ไม่ตรงกับที่ได้จดทะเบียนไว้ |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 86/4 |
ข้อหารือ | : 1. กรณีใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ที่ผู้ขายออกให้ผู้ซื้อโดยไม่ได้พิมพ์คำว่าแขวง ลงใน ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ซึ่งไม่ตรงกับ ภ.พ.20 จะใช้เป็นภาษีซื้อในการยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 86/4 (3) ได้หรือไม่ 2. กรณีใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ที่ผู้ขายออกให้ผู้ซื้อ พิมพ์รหัสไปรษณีย์ 10110 ลงไป ในใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ซึ่งไม่ตรงกับ ภ.พ.20 จะใช้เป็นภาษีซื้อในการยื่นแบบแสดงรายการ ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 86/4 (3) ได้หรือไม่ |
แนววินิจฉัย | : 1. กรณีบริษัทฯ ได้รับใบกำกับภาษีซื้อ ซึ่งระบุที่อยู่ของผู้ซื้อถูกต้อง แต่มิได้ระบุแขวงไว้ เนื่องจากรายการที่อยู่ของผู้ซื้อ ซึ่งระบุไว้ในใบกำกับภาษี สามารถบอกตำแหน่งที่ตั้งที่ชัดแจ้งถูกต้อง ตามมาตรา 86/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร จึงเป็นใบกำกับภาษีซื้อที่นำมาหักในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 2. รหัสไปรษณีย์ไม่ใช่รายการตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร กรณีบริษัทฯ ได้รับ ใบกำกับภาษีซื้อซึ่งระบุรหัสไปรษณีย์คลาดเคลื่อน บริษัทฯ จึงใช้เป็นใบกำกับภาษีซื้อได้ |
เลขตู้ | : 62/27885 |
https://www.rd.go.th/23605.html
เลขที่หนังสือ | : กค 0811/3013 |
วันที่ | : 19 เมษายน 2543 |
เรื่อง | : ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการขออนุมัติใช้ใบกำกับภาษีที่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรพิมพ์เกิน |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 81/5 (2), มาตรา 82/3 |
ข้อหารือ | : บริษัทฯ ขอให้พิจารณาอนุมัติการใช้ใบกำกับภาษี กรณีโรงพิมพ์ได้พิมพ์ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรในใบกำกับภาษีเกินไป 1 หมายเลข โดยบริษัทฯ ได้เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2540 ถึงวันที่ 17 กันยายน 2542 เริ่มต้นใช้ตั้งแต่เล่มที่ 181 เลขที่ 09001 ถึงเล่มที่ 221 เลขที่ 11049 และบริษัทฯ ได้ยกเลิกใบกำกับภาษีเล่มที่ 221 เลขที่ 11050 ถึงเล่มที่ 230 เลขที่ 11500 ในวันที่ 17 กันยายน 2542 |
แนววินิจฉัย | : กรณีใบกำกับภาษีที่พิมพ์เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรเกินไปหนึ่งหมายเลขถือเป็น ใบกำกับภาษีที่มีข้อความไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ตามมาตรา 82/5(2) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 17) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับภาษีซื้อที่ไม่ให้นำไปหักในการคำนวณภาษีตามมาตรา82/5(1)(2)(3) และ (4) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้รับจึงไม่อาจนำภาษีซื้อตามใบกำกับภาษีดังกล่าวมาหักในการคำนวณภาษีตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการจดทะเบียน ซึ่งจัดทำใบกำกับภาษีโดยมีรายการในส่วนที่เป็นสาระสำคัญไม่ถูกต้องครบถ้วนเมื่อได้รับการร้องขอให้ยกเลิกใบกำกับภาษีฉบับเดิมและจัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่ที่ถูกต้อง ให้ดำเนินการดังนี้ (1) เรียกคืนใบกำกับภาษีฉบับเดิมและนำมาประทับตราว่า "ยกเลิก" หรือขีดฆ่า แล้วเก็บ รวมไว้กับสำเนาใบกำกับภาษีฉบับเดิม (2) จัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่ซึ่งเป็นเลขที่ใหม่ แต่จะต้องลง วัน เดือน ปี ให้ตรงกับ วัน เดือน ปี ตามใบกำกับภาษีฉบับเดิม และ (3) หมายเหตุไว้ในใบกำกับภาษีฉบับใหม่ว่า เป็นการยกเลิกและออกใบกำกับภาษีฉบับใหม่ แทนฉบับเดิมเลขที่... เล่มที่... และหมายเหตุการยกเลิกใบกำกับภาษีไว้ในรายงานภาษีขายของ เดือนภาษีที่จัดทำใบกำกับภาษีฉบับใหม่ด้วย ส่วนผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ร้องขอให้ยกเลิกใบกำกับภาษีฉบับเดิมและจัดทำฉบับใหม่ที่ ถูกต้อง จะต้องถ่ายเอกสารใบกำกับภาษีฉบับเดิมที่ขอยกเลิกติดเรื่องไว้ด้วย |
เลขตู้ | : 63/29161 |
https://www.rd.go.th/23900.html
เลขที่หนังสือ | : กค 0811/6268 |
วันที่ | : 21 มิถุนายน 2544 |
เรื่อง | : การปัดเศษทศนิยมของภาษีมูลค่าเพิ่ม |
ข้อกฎหมาย | : มาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 |
ข้อหารือ | : กรมศุลกากรแจ้งว่าตามมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตาม ความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 238) พ.ศ. 2534 บัญญัติไว้ว่า ให้ ยกเว้นภาษีเงินได้ในหมวด 3 ภาษีมูลค่าเพิ่มในหมวด 4 และภาษีธุรกิจเฉพาะในหมวด 5 ของลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเฉพาะเศษของบาทจากการคำนวณภาษีนั้น กรมศุลกากรจึง หารือว่า ในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมศุลกากร หากมีเศษทศนิยมเกิดขึ้น เศษของบาทควรจะปัด เป็นหนึ่งบาท หรือควรจะยกเว้นเศษของบาทโดยตัดเศษของบาททิ้ง |
แนววินิจฉัย | : ผู้นำเข้าเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82 ประกอบกับมาตรา 83/8 แห่ง ประมวลรัษฎากร จึงได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเฉพาะเศษของบาทจากการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มที่ ผู้นำเข้ามีหน้าที่เสีย ตามมาตรา 5 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการ ยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2500 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 238) พ.ศ. 2534 ดังนั้น ผู้นำเข้าจึงไม่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเศษของบาทจากการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มแต่อย่างใด |
เลขตู้ | : 64/30614 |